สำหรับ Part 2 จะขอพูดถึงการเปลี่ยนแปลงค่าของตัวแปร หรือการโยนค่าของตัวแปร สังเกตุว่าการประกาศตัวแปรขึ้นมา ชื่อของตัวแปรจะต้องอยู่ซ้ายมือของเครื่องหมาย = (equal) และค่าที่จะกำหนดให้ตัวแปรจะต้องอยู่ขวามือของเครื่องหมาย = (equal) เสมอ เพราะในภาษา PHP หากมีเครื่องหมาย = ค่าที่อยู่ทางขวาจะส่งไปยังค่าทางซ้ายเสมอ
ตัวอย่างที่ 1
<?php
$a=1;
$b=2;
?>
จากตัวอย่างที่ 1 ตัวแปร a จะมีค่าเป็น 1 และ ตัวแปร b จะมีค่าเป็น 2 ตัวอย่างนี้ง่ายๆ ครับ ลองดูตัวอย่างต่อไป
ตัวอย่างที่ 2
<?php
$a=1;
$b=2;
$a=b;
?>
จากตัวอย่างที่ 2 สุดท้ายตัวแปร a ไม่ได้มีค่าเท่ากับ 1 แต่มีค่าเท่ากับ 2 เพราะในบรรทัดสุดท้าย
$a=$b;
จำได้ไหมว่าค่าที่อยู่ทางขวาจะส่งไปยังค่าทางซ้ายเสมอ เพราะฉะนั้นค่าของ b คือ 2 จึงถูกโยนมาให้ตัวแปร a ด้วย
หลังจากที่อธิบายเรื่องการสร้างตัวแปรไปแล้วใน Part 1 จะเห็นว่าการสร้างตัวแปรเก็บค่าตัวอักษร จะใช้เครื่องหมาย " (Double Quote) หรือ เครื่องหมาย ' (Single Quote) ก็ได้ ซึ่งนอกจากเป็นการใช้ประกาศค่าตัวแปรชนิด String ยังใช้กับคำสั่ง echo ด้วย
ตัวอย่างที่ 2
<?php
$name1="Green";
$name2='Green';
?>
จากตัวอย่าง 2 จะได้ผลลัพธ์เหมือนกัน มันจะต่างกันตรงที่เครื่องหมาย " (Double Quote) กับ เครื่องหมาย ' (Single Quote) เช่นเดียวกันกับเวลาที่เราใช้คำสั่ง echo
ตัวอย่างที่ 3
<?php
echo "Green";
echo 'Green';
?>
จากตัวอย่าง 2 และ 3 ผลลัพธ์เหมือนกัน จุดที่ต่างกันคือเครื่องหมาย " (Double Quote) สามารถแทรกตัวแปรเข้าไปได้
ตัวอย่างที่ 4
<?php
$first_name="Jame";
$last_name="Green";
echo "$first_name $last_name";
?>
จากตัวอย่างที่ 4 ผลลัพธ์ที่จะแสดงผลออกมาคือ Jame Green สรุปก็คือถ้ามีตัวแปรอยู่ในเครื่องหมาย " (Double Quote) มันจะถูกแปลงออกมาเป็นค่าของตัวแปรที่กำหนดไว้
ตัวอย่างที่ 5
<?php
$first_name="Jame";
$last_name="Green";
echo '$first_name $last_name';
?>
จากตัวอย่างที่ 5 เปลี่ยนเครื่องหมายตรงคำสั่ง echo ใช้เครื่องหมาย ' (Single Quote) แทน ผลลัพธ์ที่ได้คือ $first_name $last_name จะเห็นว่ามันไม่ได้แสดงค่าของตัวแปรออกมา แต่มันแสดงชื่อของตัวแปรแทน สรุปคือถ้าเขียนแบบนี้มันจะไม่สนว่าเป็นตัวแปรหรือไม่ เขียนมาอย่างไรก็แสดงอย่างนั้นเลย